บทนำ
อุตสาหกรรมเกมได้เห็นการเพิ่มขึ้นของความนิยมของเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและตำนานที่หลากหลาย หนึ่งในเกมที่ได้รับความสนใจอย่างมากในเวทีระดับนานาชาติคือ "Black Myth: Wukong" พัฒนาโดยสตูดิโอจีน Game Science เกมแอคชั่น RPG นี้มีรากฐานมาจากนวนิยายจีนคลาสสิก "Journey to the West" และได้ดึงดูดผู้ชมทั่วโลกด้วยภาพที่น่าทึ่ง การเล่นเกมที่น่าสนใจ และเรื่องราวที่เข้มข้น
การปล่อยตัวอย่างการเล่นเกมของมันได้จุดประกายความตื่นเต้นอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงยุโรป อเมริกาเหนือ และภูมิภาคอื่น ๆ บทความนี้สำรวจเหตุผลเบื้องหลังความน่าสนใจระดับโลกของ "Black Myth: Wukong" ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่ออนาคตของการเล่นเกม และแนะนำเกมอื่น ๆ ที่แฟน ๆ ของชื่อนี้อาจชื่นชอบ
การตอบรับทั่วโลกของ "Black Myth: Wukong"
"Black Myth: Wukong" สามารถทะลุผ่านอุปสรรคทางวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ ดึงดูดความสนใจจากเกมเมอร์และสื่อทั่วโลก ปัจจัยหลายประการที่มีส่วนทำให้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ:ภาพที่น่าทึ่งและความสามารถทางเทคนิค
-
ภาพที่น่าทึ่งและความสามารถทางเทคนิค
ตัวอย่างการเล่นเกมแรกของ "Black Myth: Wukong" ถูกปล่อยออกมาในเดือนสิงหาคม 2020 และกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว โดยมียอดวิวหลายล้านครั้งในแพลตฟอร์มต่าง ๆ การใช้ Unreal Engine 4 ของเกม (และต่อมายืนยันว่าจะเปลี่ยนไปใช้ Unreal Engine 5) ทำให้มันสามารถบรรลุระดับความละเอียดของกราฟิกที่เทียบเท่า และในบางกรณี เกินกว่าเกม AAA หลายเกมจากสตูดิโอตะวันตกที่มีชื่อเสียง การออกแบบตัวละครที่ซับซ้อน สภาพแวดล้อมที่มีรายละเอียด และแอนิเมชั่นการต่อสู้ที่ลื่นไหล ได้รับการเปรียบเทียบกับเกมอย่าง "Sekiro: Shadows Die Twice" และ "God of War" ซึ่งทั้งสองเกมเป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพการผลิตที่สูงความร่ำรวยทางวัฒนธรรมและความลึกซึ้งทางตำนาน
-
ความร่ำรวยทางวัฒนธรรมและความลึกซึ้งทางตำนาน
ในขณะที่เกมตะวันตกหลายเกมได้สำรวจตำนานจากกรีก นอร์ส หรืออียิปต์ "Black Myth: Wukong" นำเสนอทัศนคติใหม่โดยการเจาะลึกตำนานจีน "Journey to the West" ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับเกมนี้ เป็นวรรณกรรมจีนที่สำคัญ บอกเล่าเรื่องราวของราชาวานร ซุนหงอคง และการเดินทางของเขากับพระถังซัมจั๋งเพื่อเก็บคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เกมนี้นำเสนอเรื่องราวที่เป็นที่รู้จักนี้และผสมผสานกับธีมที่มืดมนและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นำเสนอการตีความใหม่ที่สอดคล้องกับทั้งผู้ชมชาวจีนและนานาชาติ
-
ความคาดหวังสูงสำหรับเรื่องราวและการเล่นเกม
ผู้เล่นทั่วโลกถูกดึงดูดไปยัง "Black Myth: Wukong" ไม่เพียงแต่เพราะภาพที่น่าทึ่ง แต่ยังเพราะคำมั่นสัญญาของการเล่นเกมที่ลึกซึ้งและน่าสนใจ เกมนี้ผสมผสานองค์ประกอบของ ARPG แบบดั้งเดิมกับกลไกที่เป็นนวัตกรรม เช่น ความสามารถในการแปลงร่างเป็นสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ แต่ละตัวมีความสามารถเฉพาะตัว สิ่งนี้ควบคู่ไปกับการต่อสู้กับบอสที่ท้าทายและการเล่นเกมที่เน้นการสำรวจ ดึงดูดแฟน ๆ ของเกมอย่าง "Dark Souls" และ "Bloodborne" นอกจากนี้ นักพัฒนาได้บอกใบ้ถึงเรื่องราวที่ทั้งซื่อสัตย์ต่อเรื่องราวดั้งเดิมและขยายพอที่จะรวมตัวละครและโครงเรื่องใหม่ ๆ ทำให้มันเป็นเกมที่ต้องเล่นสำหรับแฟน ๆ ของเกมที่เน้นเรื่องราว
-
การตลาดที่แข็งแกร่งและการปรากฏตัวในโซเชียลมีเดีย
Game Science ได้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและชุมชนเกมเพื่อสร้างความคาดหวังสำหรับ "Black Myth: Wukong" ตัวอย่างแรกถูกปล่อยออกมาอย่างมีกลยุทธ์โดยไม่มีการโปรโมตล่วงหน้า ซึ่งนำไปสู่การสร้างกระแสอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อเกมเมอร์แชร์และพูดคุยเกี่ยวกับมันในฟอรัมและโซเชียลมีเดีย นักพัฒนาได้เปิดเผยเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาเกมอย่างสม่ำเสมอ โดยแชร์อัปเดตและมีส่วนร่วมกับแฟนๆ การสื่อสารที่เปิดเผยนี้ช่วยสร้างฐานแฟนคลับที่ภักดีที่รอคอยการเปิดตัวของเกมอย่างใจจดใจจ่อ
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมทั่วโลก
ความสำเร็จของ "Black Myth: Wukong" มีผลกระทบที่กว้างขึ้นต่ออุตสาหกรรมเกมทั่วโลก มันบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงสู่ความหลากหลายที่มากขึ้นในประเภทของเรื่องราวและการเล่าเรื่องทางวัฒนธรรมที่สามารถประสบความสำเร็จในเวทีระดับนานาชาติ นี่คือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น:
-
ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในวัฒนธรรมและตำนานจีน
เมื่อ "Black Myth: Wukong" ได้รับความสนใจ มันยังจุดประกายความอยากรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและตำนานจีน ซึ่งอาจนำไปสู่ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสื่ออื่น ๆ เช่น ภาพยนตร์ หนังสือ และรายการทีวีที่สำรวจธีมที่คล้ายกัน นอกจากนี้ นักพัฒนาเกมอื่น ๆ อาจได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเกมที่อิงจากตำนานจีนหรือร่วมมือกับสตูดิโอจีนเพื่อนำเรื่องราวเหล่านี้สู่ผู้ชมทั่วโลก
-
โอกาสมากขึ้นสำหรับสตูดิโอเกมที่ไม่ใช่ตะวันตก
ความสำเร็จระดับโลกของ "Black Myth: Wukong" อาจกระตุ้นให้ผู้จัดพิมพ์และนักลงทุนมองข้ามตลาดตะวันตกแบบดั้งเดิมเมื่อมองหาความสามารถใหม่และแนวคิดเกมที่นวัตกรรม เมื่ออุตสาหกรรมเกมกลายเป็นสากลมากขึ้น เราอาจเห็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนเกมที่พัฒนาโดยสตูดิโอในเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ
-
การขยายตัวของเทคโนโลยีการพัฒนาเกม
ความสำเร็จทางเทคนิคที่น่าประทับใจของ "Black Myth: Wukong" แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเครื่องมืออย่าง Unreal Engine 5 ซึ่งอาจกระตุ้นให้สตูดิโออื่นๆ นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ ทำให้เกิดเกมที่มีภาพที่น่าทึ่งและมีความก้าวหน้าทางเทคนิคมากขึ้นในอนาคต เมื่อเครื่องมือเหล่านี้เข้าถึงได้มากขึ้น เราอาจเห็นการเพิ่มขึ้นของเกมอินดี้คุณภาพสูงที่สามารถแข่งขันกับเกม AAA ขนาดใหญ่ได้
-
การเปลี่ยนแปลงสู่เกมที่เน้นเรื่องราวและได้รับแรงบันดาลใจจากตำนาน
ความสำเร็จของ "Black Myth: Wukong" อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้นสู่เกมที่ให้ความสำคัญกับความลึกซึ้งของเรื่องราวและความถูกต้องทางวัฒนธรรม ผู้เล่นกำลังมองหาเกมที่ให้มากกว่าแค่ความบันเทิง พวกเขาต้องการประสบการณ์ที่ท้าทายพวกเขาทางอารมณ์และสติปัญญา โดยการดึงเอาประเพณีตำนานที่ร่ำรวย นักพัฒนาสามารถสร้างเกมที่สอดคล้องกับผู้เล่นทั่วโลกในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เกมที่แนะนำสำหรับแฟน ๆ ของ "Black Myth: Wukong"
สำหรับผู้ที่รอคอยการเปิดตัวของ "Black Myth: Wukong" อย่างใจจดใจจ่อ มีเกมอื่น ๆ หลายเกมที่อาจตอบสนองความต้องการของคุณสำหรับเกมแอคชั่น RPG ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานและเน้นเรื่องราว:
-
"Sekiro: Shadows Die Twice" (2019)
พัฒนาโดย FromSoftware, "Sekiro: Shadows Die Twice" เป็นเกมแอคชั่นผจญภัยที่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่นช่วงปลายปี 1500 ที่ถูกจินตนาการใหม่ มันมีความคล้ายคลึงกับ "Black Myth: Wukong" หลายประการ รวมถึงการต่อสู้ที่ท้าทาย การเน้นที่การลอบเร้น และเรื่องราวที่เต็มไปด้วยตำนาน ตัวเอกของเกม ชิโนบิชื่อ Wolf ต้องนำทางในโลกที่เต็มไปด้วยศัตรูที่อันตราย สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ และพิธีกรรมโบราณ เช่นเดียวกับ "Black Myth: Wukong" "Sekiro" นำเสนอการผสมผสานระหว่างแอคชั่นที่รวดเร็วและการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง
-
"Nioh 2" (2020)
อีกหนึ่งเกม RPG แอคชั่นที่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่น, "Nioh 2" พัฒนาโดย Team Ninja และทำหน้าที่เป็นภาคก่อนของ "Nioh" ดั้งเดิม เกมนี้อนุญาตให้ผู้เล่นสร้างตัวละครของตนเอง, นักรบครึ่งมนุษย์ครึ่งโยไคที่ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตในตำนานและบุคคลทางประวัติศาสตร์ ด้วยระบบการต่อสู้ที่ซับซ้อน, การปรับแต่งตัวละคร, และเรื่องราวที่เข้มข้น, "Nioh 2" เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟน ๆ ของเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนาน
-
"God of War" (2018)
การรีบูต "God of War" ของ Sony Santa Monica นำซีรีส์ที่เป็นที่รู้จักไปสู่ระดับใหม่โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ตำนานนอร์ส เกมนี้ติดตาม Kratos และลูกชายของเขา Atreus ขณะที่พวกเขาเดินทางผ่านโลกที่เต็มไปด้วยเทพเจ้า, ยักษ์, และสิ่งมีชีวิตในตำนานอื่น ๆ ด้วยภาพที่น่าทึ่ง, เรื่องราวที่สะเทือนอารมณ์, และการต่อสู้ที่ดุเดือด, "God of War" เป็นเกมที่ต้องเล่นสำหรับใครก็ตามที่สนใจในเกมที่มีพื้นฐานจากตำนาน
-
"Ghost of Tsushima" (2020)
พัฒนาโดย Sucker Punch Productions, "Ghost of Tsushima" เป็นเกมแอคชั่นผจญภัยแบบเปิดโลกที่ตั้งอยู่ในญี่ปุ่นยุคศักดินา เกมนี้บอกเล่าเรื่องราวของ Jin Sakai, ซามูไรที่ต้องใช้กลยุทธ์ที่ไม่ธรรมดาเพื่อปกป้องบ้านเกิดของเขาจากผู้รุกรานมองโกล แม้ว่าจะไม่ได้เน้นไปที่ตำนานอย่างหนักเหมือนบางเกมอื่น ๆ ในรายการนี้, "Ghost of Tsushima" มอบประสบการณ์การเล่าเรื่องที่เข้มข้นและภาพที่น่าทึ่งที่จะดึงดูดแฟน ๆ ของ "Black Myth: Wukong"
-
"Hellblade: Senua's Sacrifice" (2017)
"Hellblade: Senua's Sacrifice" ของ Ninja Theory เป็นเกมที่มืดมนและมีบรรยากาศที่สำรวจธีมของความเจ็บป่วยทางจิตและตำนานนอร์ส ผู้เล่นควบคุม Senua, นักรบเซลติกที่ออกเดินทางผจญภัยที่น่ากลัวเพื่อช่วยวิญญาณของคนรักที่ตายไปแล้ว เกมนี้เป็นที่รู้จักในด้านความลึกซึ้งทางจิตวิทยา, การเล่าเรื่องที่ดื่มด่ำ, และวิธีการที่ไม่เหมือนใครในการแสดงปัญหาสุขภาพจิต สำหรับผู้ที่สนใจในประสบการณ์ที่สะท้อนอารมณ์และมีความลึกซึ้ง, "Hellblade" เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
-
"The Witcher 3: Wild Hunt" (2015)
"The Witcher 3: Wild Hunt" ของ CD Projekt Red ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกม RPG ที่ดีที่สุดตลอดกาล อิงจากซีรีส์หนังสือโปแลนด์โดย Andrzej Sapkowski, เกมนี้ตั้งอยู่ในโลกที่มีรายละเอียดอย่างลึกซึ้งที่เต็มไปด้วยนิทานพื้นบ้าน, เวทมนตร์, และการเมือง ผู้เล่นควบคุม Geralt of Rivia, นักล่ามอนสเตอร์ที่ต้องนำทางผ่านเครือข่ายของเรื่องราวที่ซับซ้อนและทำการตัดสินใจที่ยากลำบากที่มีผลต่อผลลัพธ์ของเกม ด้วยเรื่องราวที่ลึกซึ้ง, ตัวละครที่น่าจดจำ, และโลกเปิดที่กว้างใหญ่, "The Witcher 3" เป็นเกมที่ต้องเล่นสำหรับแฟน ๆ ของเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนาน
-
"Bloodborne" (2015)
"Bloodborne" ของ FromSoftware เป็นเกม RPG แอคชั่นที่ตั้งอยู่ในโลกโกธิค, Lovecraftian เกมนี้มีการต่อสู้ที่รวดเร็ว, การออกแบบระดับที่ซับซ้อน, และบรรยากาศที่น่าหวาดกลัวที่ดึงดูดผู้เล่นเข้าสู่เรื่องราวที่มืดมนของมัน แม้ว่า "Bloodborne" จะเน้นไปที่ความสยองขวัญมากกว่าตำนาน, ความลึกซึ้งของเรื่องราวและการเล่นเกมที่ท้าทายทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟน ๆ ของ "Black Myth: Wukong"
-
"HorizonZero Dawn" (2017)
พัฒนาโดย Guerrilla Games, "Horizon Zero Dawn" เป็นเกม RPG แอคชั่นที่มีภาพสวยงามตั้งอยู่ในโลกหลังหายนะที่ธรรมชาติได้กลับคืนสู่โลก และสิ่งมีชีวิตหุ่นยนต์เดินเตร่อยู่ในดินแดน ตัวเอกของเกม, Aloy, ต้องค้นพบความลึกลับของโลกและอดีตของเธอในขณะที่ต่อสู้กับสัตว์จักรกลเหล่านี้ แม้ว่ามันจะตั้งอยู่ในอนาคตมากกว่าการตั้งค่าตำนาน, "Horizon Zero Dawn" มีจุดร่วมกับ "Black Myth: Wukong" ในการเน้นภาพที่น่าทึ่ง, เรื่องราวที่แข็งแกร่ง, และกลไกการเล่นเกมที่นวัตกรรม
-
"Assassin's Creed Odyssey" (2018)
เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Assassin's Creed ที่ดำเนินมายาวนานของ Ubisoft, "Odyssey" ตั้งอยู่ในช่วงสงคราม Peloponnesian และสำรวจตำนานและประวัติศาสตร์กรีก ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเป็น Alexios หรือ Kassandra, ทหารรับจ้างที่มีอดีตลึกลับที่เชื่อมโยงกับอารยธรรมแรกโบราณ เกมนี้มีโลกเปิดที่กว้างขวาง, เรื่องราวที่แตกแขนง, และการเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตในตำนาน, ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเกมที่ทอผ้าตำนานเข้ากับเรื่องราวของพวกเขา
-
"Jade Empire" (2005)
"Jade Empire" ของ BioWare เป็นเกม RPG แอคชั่นที่ตั้งอยู่ในโลกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานจีนและศิลปะการต่อสู้ ผู้เล่นรับบทเป็นศิลปินการต่อสู้ที่ต้องออกเดินทางเพื่อช่วยอาจารย์ของพวกเขาและเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่กำลังจะมาถึงอาณาจักร เกมนี้เป็นที่รู้จักในด้านการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง, การเล่าเรื่องที่เน้นตัวละคร, และระบบการต่อสู้ที่เน้นสไตล์ศิลปะการต่อสู้ที่แตกต่างกัน แม้ว่าเกมนี้จะมีอายุแล้ว, "Jade Empire" ยังคงเป็นที่รักของแฟน ๆ ของเกมที่มีตำนานที่เข้มข้นและทำหน้าที่เป็นบรรพบุรุษทางจิตวิญญาณของแนวสมัยใหม่
สรุป
"Black Myth: Wukong" กำลังจะกลายเป็นเกมที่เป็นจุดสังเกตในภูมิทัศน์การเล่นเกมระดับโลก, ไม่เพียงแต่สำหรับความสำเร็จทางเทคนิคและความลึกซึ้งของเรื่องราว แต่ยังสำหรับบทบาทของมันในการขยายขอบเขตของเรื่องราวที่เกมสามารถบอกได้ ความสำเร็จของมันได้แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นทั่วโลกกระตือรือร้นที่จะสำรวจวัฒนธรรมและตำนานใหม่ ๆ และมันอาจเปิดทางให้กับนักพัฒนาที่ไม่ใช่ตะวันตกคนอื่น ๆ ได้รับการยอมรับในระดับสากล
ในขณะที่เรารอการเปิดตัว, แฟน ๆ สามารถดื่มด่ำกับเกมที่กล่าวถึงข้างต้น, แต่ละเกมมีการนำเสนอที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับตำนาน, การเล่นเกมที่ท้าทาย, และการเล่าเรื่องที่เข้มข้น ไม่ว่าจะผ่านดินแดนที่น่าหวาดกลัวของ "Bloodborne," อาณาจักรตำนานของ "God of War," หรือภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยซามูไรของ "Ghost of Tsushima," ไม่มีการขาดแคลนโลกที่น่าหลงใหลให้สำรวจ
"Black Myth: Wukong" ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกม แต่เป็นสะพานวัฒนธรรมที่เชื่อมต่อระหว่างตะวันออกและตะวันตกผ่านภาษาสากลของการเล่าเรื่อง มันเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเกมสามารถยอมรับความหลากหลายได้อย่างไร โดยมอบโอกาสให้ผู้เล่นทั่วโลกได้สัมผัสกับตำนานและเรื่องเล่าของวัฒนธรรมต่าง ๆ ในปีต่อ ๆ ไป จะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าเกมนี้จะมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมอย่างไรและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรื่องราวใหม่ ๆ ที่ดึงดูดผู้ชมทั่วโลกได้อย่างไร