Black Friday และ Cyber Monday เป็นสองกิจกรรมช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี โดยเสนอส่วนลดมากมายสำหรับผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท แม้ว่ายอดขายเหล่านี้จะเป็นโอกาสที่ดีในการทำข้อตกลง แต่ก็ยังดึงดูดนักต้มตุ๋นที่ต้องการใช้ประโยชน์จากนักช้อปที่ไม่สงสัยอีกด้วย ด้วยผู้ค้าปลีกและเว็บไซต์จำนวนมากขึ้นที่เสนอส่วนลดมากมาย การฉ้อโกงการช้อปปิ้งออนไลน์จึงมีความโดดเด่นมากกว่าที่เคย ในบล็อกนี้ เราจะสำรวจการหลอกลวงในวัน Black Friday ที่พบบ่อยและวิธีที่คุณสามารถป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงเหล่านี้
ที่มา:© rblfmr/Shutterstock.com
การเพิ่มขึ้นของการหลอกลวงในวัน Black Friday
เมื่อวัน Black Friday และ Cyber Monday ได้รับความนิยมอย่างมาก การหลอกลวงที่มุ่งเป้าไปที่นักช้อปก็เช่นกัน ในความเป็นจริง การศึกษาล่าสุดเผยให้เห็นว่าอีเมลสแปมในวัน Black Friday ถึง 3 ใน 4 ฉบับเป็นการหลอกลวง อีเมลหลอกลวงเหล่านี้มักเสนอส่วนลดที่ไม่สมจริงสำหรับผลิตภัณฑ์ เช่น สินค้าฟุ่มเฟือย อุปกรณ์เทคโนโลยี หรือของชำ ซึ่งปรับแต่งมาโดยเฉพาะเพื่อกำหนดเป้าหมายกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่างกัน การเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ปลอมและการโจมตีแบบฟิชชิ่งทำให้ผู้ซื้อแยกแยะข้อเสนอที่ถูกต้องตามกฎหมายออกจากข้อเสนอที่เป็นการฉ้อโกงได้ยากขึ้น
นอกจากนี้ นักต้มตุ๋นยังใช้เครื่องมือ AI ขั้นสูงเพื่อสร้างเว็บไซต์และอีเมลที่ดูสมจริง ทำให้ผู้บริโภคระบุได้ยากขึ้นว่าข้อเสนอใดเป็นของจริง ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ปลอมอาจคัดลอกสี โลโก้ และแบบอักษรของผู้ค้าปลีกที่เชื่อถือได้ หลอกลวงนักช้อปให้แบ่งปันข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหรือทำการซื้อที่พวกเขาจะเสียใจ
วิธีที่ AI และเทคโนโลยีมีส่วนทำให้เกิดการหลอกลวงในวัน Black Friday
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้การหลอกลวงในวัน Black Friday เพิ่มขึ้นคือการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ (AI) AI ถูกใช้โดยนักต้มตุ๋นในการออกแบบกลโกงที่ซับซ้อนซึ่งสะท้อนถึงแบรนด์และผู้ค้าปลีกที่มีชื่อเสียง กลโกงเหล่านี้มักจะรวมถึงอีเมลที่ดูเป็นมืออาชีพ หน้าเว็บผลิตภัณฑ์ปลอม และแม้แต่ส่วนลดที่ "ดีเกินกว่าจะเป็นจริง"
นอกจาก AI แล้ว นักต้มตุ๋นยังใช้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความยั่งยืน นักต้มตุ๋นบางรายกำลังโปรโมตสินค้าปลอมหรือสินค้าที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืนเพื่อดึงดูดนักช้อปที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบข้อเรียกร้องเหล่านี้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังข้อเสนอที่ดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืนโดยไม่มีหลักฐานหรือการรับรองจากบุคคลที่สามอย่างเพียงพอ
การหลอกลวงในวัน Black Friday ที่พบบ่อยที่ควรระวัง
1.สินค้าฟุ่มเฟือยปลอม
ผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นมักตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงที่เสนอสินค้าดีไซเนอร์ระดับไฮเอนด์ในราคาที่ต่ำอย่างน่าสงสัย นักต้มตุ๋นจะตั้งค่าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซปลอมที่ดูเหมือนจะขายสินค้าหรูหราของแท้ แต่เมื่อการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น ผู้ซื้อจะได้รับสินค้าปลอมหรือไม่ได้รับอะไรเลย
2. ข้อตกลงเทคโนโลยีลวงตา
ผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีเป็นเป้าหมายหลักสำหรับข้อเสนออุปกรณ์ปลอม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการยอดนิยม เช่น สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และคอนโซลเกม ข้อเสนอเหล่านี้มักจะโฆษณาผ่านอีเมลสแปมหรือโฆษณาที่น่าสงสัยบนโซเชียลมีเดีย
3. การหลอกลวงแบบสำรวจจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่
นักต้มตุ๋นบางรายใช้ชื่อแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น Costco หรือ Tesco เพื่อล่อลวงนักช้อปให้เข้าร่วมการหลอกลวงแบบสำรวจปลอม คำสัญญาว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์หรือบัตรกำนัลฟรีเพื่อแลกกับการทำแบบสำรวจให้เสร็จสมบูรณ์เป็นกลยุทธ์ทั่วไปที่ใช้ในการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล
4. เว็บไซต์ส่วนลดปลอม
เว็บไซต์อย่าง Temu และ Shein ถูกจับตามองเนื่องจากเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนลดมากซึ่งอาจไม่มีอยู่จริงหรือแสดงข้อมูลผิดพลาด Temu โดยเฉพาะอย่างยิ่งถูกสหภาพยุโรปสอบสวนเนื่องจากเสนอส่วนลดปลอมและละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
ที่มา:ERIC THAYER/Reuters/Corbis
วิธีป้องกันตัวเองจากการหลอกลวงในวัน Black Friday
แม้ว่าจำนวนการหลอกลวงจะเพิ่มขึ้น แต่ก็มีขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะปลอดภัยขณะช้อปปิ้งในช่วง Black Friday และ Cyber Monday ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยคุณป้องกันตัวเอง:
1. ระวังส่วนลดที่ไม่สมจริง
หากข้อตกลงฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นจริง มันอาจจะเป็นเช่นนั้น นักต้มตุ๋นมักล่อลวงนักช้อปด้วยส่วนลดมากมายสำหรับสินค้ายอดนิยม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตรวจสอบราคาจากหลายแหล่งเพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงนั้นถูกต้องตามกฎหมาย หากส่วนลดดูมากเกินไป ให้ใช้เวลาในการตรวจสอบเพิ่มเติม
2. ตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์อีกครั้ง
ก่อนทำการซื้อใดๆ โปรดยืนยัน URL ของเว็บไซต์ นักต้มตุ๋นมักสร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูคล้ายกับเว็บไซต์จริง หาก URL ดูแปลก มีคำที่สะกดผิด หรือใช้โดเมนแปลกๆ ถือเป็นสัญญาณอันตราย เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ ให้ซื้อโดยตรงจากเว็บไซต์ทางการของผู้ค้าปลีก
3. หลีกเลี่ยงลิงก์ที่น่าสงสัย
ระวังลิงก์ในอีเมลที่ไม่พึงประสงค์หรือโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะจากบัญชีที่สร้างขึ้นใหม่หรือแหล่งที่ไม่รู้จัก นักต้มตุ๋นมักใช้การรับรองจากคนดังปลอมหรือข้อเสนอที่น่าดึงดูดเพื่อให้นักช้อปคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย
4. ใช้บัตรเครดิตในการชำระเงิน
เมื่อช้อปปิ้งออนไลน์ ให้ใช้บัตรเครดิตแทนบัตรเดบิต เงินสดในการจัดส่ง หรือวิธีการชำระเงินอื่นๆ เสมอ บัตรเครดิตมีการป้องกันการฉ้อโกงที่แข็งแกร่งกว่า และคุณสามารถโต้แย้งค่าใช้จ่ายได้หากคุณตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง
5. ยึดมั่นในงบประมาณและวางแผนล่วงหน้า
การสร้างรายการช้อปปิ้งและยึดมั่นในรายการนั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงในวัน Black Friday การซื้อของแบบหุนหันพลันแล่นอาจนำไปสู่การใช้จ่ายเกินตัว และนักต้มตุ๋นก็เติบโตจากความเร่งรีบที่นักช้อปรู้สึกในช่วงงานลดราคา กำหนดงบประมาณและซื้อเฉพาะสินค้าที่คุณต้องการจริงๆ
6. ระวังข้อเสนอที่จำกัดเวลา
นักต้มตุ๋นมักสร้างความรู้สึกเร่งด่วนที่ผิดพลาดโดยใช้ตัวจับเวลานับถอยหลังหรือเสนอข้อเสนอที่จำกัดเวลา อย่าปล่อยให้การนับถอยหลังทำให้คุณตัดสินใจหุนหันพลันแล่น ใช้เวลาในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อตกลงและเว็บไซต์ก่อนที่จะทำการซื้อให้เสร็จสิ้น
บทสรุป: ช้อปอย่างปลอดภัยและชาญฉลาด
Black Friday และ Cyber Monday เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักล่าของต่อรองราคา แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ด้วยการระมัดระวัง สงสัยในข้อเสนอที่ดีเกินกว่าจะเป็นจริง และปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น คุณจะสามารถป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงได้ โปรดจำไว้ว่า การวางแผนล่วงหน้าและการตัดสินใจอย่างรอบรู้คือกุญแจสำคัญในการเพลิดเพลินกับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ปลอดภัยและประสบความสำเร็จ ดังที่ Charlotte Lumbroso-Baumgartner ซีอีโอของ Voucherbox แนะนำว่า: *"ข้อตกลงจะมีคุณค่าได้ก็ต่อเมื่อสอดคล้องกับความต้องการและงบประมาณของคุณเท่านั้น"* ดังนั้น จงตั้งใจและตรวจสอบให้แน่ใจก่อนซื้อเสมอ!
ขอให้ช้อปปิ้งอย่างมีความสุขและปลอดภัย!